แก้วเอสเพรสโซ่ - 60 มล.
แก้วคาปูชิโน่ - 180 มล.
แก้วแฟลตไวท์ - 160 มล.
แก้วขนาดปกติ - 350 มล.
ชาม - 160 มล.
แก้วลาเต้ - 220 มล.
แก้วคอร์ตาโด - 135 มล.
แก้วไอริชคอฟฟี่ - 250 มล.
แก้วกาแฟตุรกี - 75 มล.
ขนาดประมาณ 350 มล.
เชื่อว่าหลายๆ คน มักมีแก้วมัคใบโปรดสำหรับดื่มกาแฟ NESCAFÉ ไม่ว่าจะเป็นแก้วพิเศษสั่งทำเฉพาะ, แก้วที่มีขนาดใหญ่พิเศษ หรือใบที่มีความหมายทางใจ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เชื่อว่าทุกคนมักมีแก้วกาแฟใบโปรดอยู่ในตู้แน่นอน
ขนาดประมาณ 60 มล.
ถ้วยเอสเพรสโซ หรือที่เรียกอีกอย่างว่าถ้วยเดมิตาส (จากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าครึ่งแก้ว) เป็นถ้วยกาแฟที่เล็กที่สุด ฐานของถ้วยมักจะแคบและกว้างขึ้นตรงปากแก้ว โดยด้วยเอสเพรสโซไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป เพราะอาจทำให้ครีม่ากระจายตัว บางลง และหายไปเร็ว นอกจากนี้ การใช้ถ้วยที่ใหญ่เกินไปยังส่งผลต่ออุณหภูมิของเอสเพรสโซ ทำให้เย็นเร็วขึ้นเนื่องจากสัมผัสกับอากาศมากเกินไป เอสเพรสโซไม่ได้เป็นแค่การช็อตกาแฟ แต่คือประสบการณ์การดื่มที่สมบูรณ์แบบ และกาแฟมักคิอาโต้ก็มักเสิร์ฟในแก้วเอสเพรสโซเช่นกัน
ขนาดประมาณ 180 มล.
ถ้วยคาปูชิโน่แบบอิตาเลียนมีขนาดเล็กกว่าถ้วยคาปูชิโน่ทั่วไป ถ้วยคาปูชิโน่ส่วนใหญ่มักมีฐานแคบและกว้างขึ้นตรงปากแก้ว เช่นเดียวกับถ้วยเอสเพรสโซ เพื่อให้ช็อตเอสเพรสโซมีความเข้มข้นมากขึ้นที่ฐานแคบ และรูปทรงโดมของแก้วนี้ยังช่วยให้โฟมด้านบนสมบูรณ์แบบ ถ้วยคาปูชิโน่ควรมีจานรองที่เข้าชุดกันด้วย นอกจากนี้กาแฟอเมริกาโน่ก็สามารถเสิร์ฟในถ้วยคาปูชิโน่ได้เช่นกัน
ขนาดประมาณ 160 มล.
แก้วแฟลตไวท์ที่เสิร์ฟอย่างถูกต้องจะคล้ายกับถ้วยคาปูชิโน่ แต่มีขนาดเล็กกว่าและมีรูปทรงคล้ายดอกทิวลิป โดยปากแก้วจะแคบลง ขนาดของแก้วแฟลตไวท์ช่วยให้รสชาติกาแฟโดดเด่นและคงความเนียนนุ่มและเนื้อครีมที่กลมกล่อม
ขนาดประมาณ 220 มล.
กาแฟลาเต้สามารถเสิร์ฟในแก้วรูปทรงโบลที่มีขนาดใหญ่กว่าแก้วคาปูชิโน่ ซึ่งทำให้การเทนมที่ผ่านการสตีมลงบนเอสเพรสโซ่ทำได้ง่ายขึ้น และสร้างลายลาเต้อาร์ตได้ด้วย ตามประเพณีและประวัติศาสตร์แล้ว ชาวอิตาลีมักเสิร์ฟกาแฟลาเต้ในแก้วลาเต้สูง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเพราะช่วยแสดงให้เห็นถึงชั้นของกาแฟลาเต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งแก้วลาเต้ยังช่วยให้บาริสต้าได้ปริมาณเอสเพรสโซ นม และโฟมที่พอดีอีกด้วย
ขนาดประมาณ 135 มล.
คอร์ตาโดเป็นกาแฟเมนูใหม่ในโลกกาแฟ มีต้นกำเนิดจากร้าน Blue Bottle Café ในซานฟรานซิสโก โดยเริ่มจากใช้แก้วจิบรัลตาร์ในการทำเมนูคอร์ตาโดโดยไม่ได้ตั้งใจ เจมส์ ฟรีแมน ผู้คิดค้นเมนูนี้กล่าวว่า แก้วจิบรัลตาร์ที่ใช้สำหรับคอร์ตาโด “ประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิดและดังไกลไปทั่วโลก และได้มีเมนูนี้ไปปรากฏอยู่ในร้านกาแฟในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น”
ขนาดประมาณ 250 มล.
แก้วกาแฟไอริช แตกต่างจากแก้วกาแฟทั่วไป โดยทำจากกระจกและมีทรงต่ำ เพื่อสะดวกแก่การยกดื่ม แก้วบางแบบอาจมีหูจับในขณะที่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายแก้วไวน์ เนื่องจากแก้วกาแฟไอริชเป็นแก้วใส ทำให้ผู้ดื่มสามารถเห็นชั้นของกาแฟและครีมที่สวยงามได้อย่างชัดเจน
ขนาดประมาณ 75 มล.
ในการชงกาแฟตุรกีจะใช้ภาชนะที่เรียกว่า ibrik หรือ cezve ซึ่งเป็นหม้อที่มีด้ามยาว จากนั้นจึงเทกาแฟแยกลงในแก้วกาแฟ โดยมักจะเรียกแก้วนี้ว่าแก้วเดมิตาส ซึ่งต่างจากแก้วที่ใช้สำหรับเอสเพรสโซ่
แก้วกาแฟตุรกีมีอุณหภูมิที่สูงกว่าเอสเพรสโซ่มาก เนื่องจากวิธีการชงกาแฟที่ใช้ ทำให้แก้วกาแฟต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและคงอุณหภูมิให้คงที่จนกว่ากากกาแฟจะตกตะกอนลงไป ซึ่งกาแฟตุรกีถูกออกแบบให้ดื่มช้าๆ เพื่อดื่มด่ำและเพลิดเพลินไปกับรสชาติ โดยแก้วกาแฟตุรกีมักทำจากเซรามิกและมีความหนาที่เหมาะสมเพื่อรักษาอุณหภูมิของกาแฟ
สร้างช่วงเวลาของคุณให้น่าจดจำมากยิ่งขึ้นด้วยการเลือกแก้วที่เหมาะสมกับเมนูกาแฟ